วันเสาร์ที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2559

รัฐกะเรา น้ำกะเรือ



จากโลกภายนอก รัฐทะเลาะกับ วัดๆหนึ่ง ก็ลามไปเป็นทะเลาะกับสังฆมณฑล ด้วยเรื่องก็ฟ้องร้องเอาโบสถ์ ซึ่งได้รับวิสุงคามสีมา คือพระเจ้าแผ่นดินยกที่ดินให้กับ ศาสนจักรไปแล้ว ยังถูกฟ้องร้องแบบไม่น่าจะเป็นไปได้ เพราะวัดๆนี้ก็สร้างมาเกือบครึ่งศตวรรษ ไม่ใช่เนรมิตในวันเดียว ข้าราชการก็เดินเข้าๆออกๆ กันตลอด ไม่ได้แอบทำซะที่ไหน ถ้ามีความผิดอย่างใด ก็ต้องเห็นว่ากล่าวมาแล้ว นี่ทำอย่างนี้ สองร้อยกว่าคดีในสัปดาห์เดียว พระทั้งประเทศก็เริ่มขยับ แผ่นดินร้อนระอุรับลมหนาว


ยังไม่พอ ทางโลกโซเชียล ก็แทบลุกเป็นไฟ คนเป็นๆ สามแสนคน มันไม่พอที่จะทำให้คน ร้อยกว่าคนที่คิดว่าตัวเองเหนือกว่าด้วยอำนาจตำแหน่ง.. ก็ทำให้เกิดการบุกเข้าไปในระบบฐานข้อมูลของทางราชการ ปิดนั่น เปิดนี่ ลบนั่น เพิ่มนี่ กันวุ่นวายไป



ต่อจากนี้จะสงบสุข ได้อย่างไร ตราบใดที่ท่าทีของรัฐ ทำต่อประชาชนอย่างนี้

ประชาชนไม่ใช่ศัตรูของรัฐ รัฐต้องหันมาหาทางคุ้มครองประชาชน ประชาชนก็กลับมาสนับสนุนรัฐตามเดิม ทำหน้าที่ๆดีต่อกันไป รัฐพึ่ง เงินภาษีในการบริหาร ประชาชนก็อาศัยการคุ้มครองของรัฐ

แต่ตอนนี้ดูเหมือน รัฐบีบบังคับกดคอประชาชนไว้แทนที่จะคุ้มครอง ประชาชนตัวเล็กๆ ดั่งหยดน้ำ จะไปทำไรได้ ก็ได้แต่รวมกันเพื่อความอยู่รอด อย่าให้น้ำมารวมกันเป็นทะเล มันจะกลืนกินทุกอย่างไม่เหลือ แม้แต่น้ำด้วยกัน


น้ำรองรับเรือให้แล่นไปได้ แต่เรือก็จมเพราะน้ำมานักต่อนักแล้ว

วิ.24 ธค.59

วันจันทร์ที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2559

ทีมแห่งจักรวาล



เข้าใจครับ ไม่รู้จะเชียร์อย่างไงดี


ทีมนี้ดูเหมือนดรีมทีม

สมาชิก สปอนเซอร์ก็พร้อม

โค้ช กัปตัน ก็เก่งมาก

ผู้เล่นก็ฝีเท้าดี ส่งไปทั่วโลก สามารถสร้างชื่อเสียงได้ทุกทวีป




เสียอย่างเดียว

เก่งเกิน ดีเกิน

เจ้าของสนามไม่ค่อยพอใจ




อาจจะเป็นด้วยเทคนิคการเล่นที่แพรวพราว แตกต่างจากการเล่นแบบเดิมๆ ที่เคยทำกันมาตั้งแต่สร้างชาติ


หรืออาจจะแนวคิดที่จะขยายทีมงานไปสู่สากล เกินกว่าอำนาจของเจ้าของสนามจะไปควบคุมได้


เรื่องไม่น่าเกิดจึงเกิดขึ้น ตั้งแต่รอบที่แล้ว ปี 42 ก็เกิดการใส่ความ โค้ช กัปตัน ผู้เล่น เป็นแถว เกือบจะต้องถูกยึดใบอนุญาต ห้ามกลับเข้าสนาม แต่ก็รอดมาได้หวุดหวิด เสียชื่อเสียงไปบ้าง แต่ก็ทำให้คนมาสนใจเพิ่มเป็นแฟนคลับกันล้นหลาม


ใครที่ทันยุคนั้น ก็คงเห็นว่าเรื่องที่กำลังเกิดตอนนี้นี่มันหนังเรื่องเดิม ความแค้นเดิมๆ ที่ไม่ได้รับการบำบัด คงไว้ซึ่งความอาฆาต พยาบาท อกตัญญู



เจ้าของสนามแม้ว่าจะได้ตายไปแล้ว แต่รุ่นสองของเจ้าของสนามก็ยังไม่รู้ว่า คนไหนเป็นอย่างไง ยิ่งมือเท้าของเจ้าของใหม่นี่ก็ไม่รู้จะสนับสนุนทีมนี้หรือไม่


หรือว่าจะเอาทีมใหม่มาแทนทีมเก่า ซื้อตัวมาจากพวกเพื่อนบ้านทางใต้ อันนี้ก็เดากันยากหน่อย


รอบนี้ โค้ชคนเดิม กัปตันคนเดิม นักเตะคนเดิม แม้จะเจนสนาม สร้างชื่อไปทุกทวีปแล้วก็ตาม



ก็ไม่วายโดนกรรมการ ไล่แจกใบเหลือง ใบแดงให้วุ่นวาย ขนาดว่าประตูยังโดน ตั้งกำแพงก็โดนทั้งกำแพง อย่างนี้ก็เล่นยาก


ก็กรรมการมันโอนไปฝ่ายเจ้าของสนาม จะบีบให้พังไปทั้งทีม อย่างนี้ก็ไม่ไหว


กองเชียร์ไม่รู้เรื่องอะไร ก็เสียงแตกกัน บ้างก็ว่า ทำไมไม่ออกอาวุธ มัวแต่ตั้งรับ จะไปชนะได้อย่างไง


บ้างก็ว่าทำไมเล่นไม่ตามกติกา เห็นไหม ได้ใบแดง ใบเหลืองมาเพียบ อย่างนี้โค้ช ต้องรับผิดชอบ


บ้างก็ว่าคงมีไส้ศึก รับเงินมาล้ม ไม่สามัคคี ทะเลาะกันเองซิท่า 


บางพวกถึงกับเสนอให้โค้ช รับผิดชอบ ออกไปลุยกับเจ้าของสนามเองเลย 

เค้าก็คงเอาโค้ชเราไปทำปุ๋ยแน่นอน


ก็ว่ากันไป


อยู่กันมานาน เรื่องภายใน อย่างนี้ใครจะไปพูดอะไรได้ จะไปบอกว่าเจ้าของสนามบีบ กรรมการก็ไม่เป็นตัวของตัวเอง มาเล่นงาน


มันก็ “มองไม่เห็น” ทั้งตัว ทั้งมือ ที่บีบ ไม่มีหลักฐานอะไร


ก็พอดี มีกรรมการตัวร้าย รับงานอีกด้วย ทีมก็ยิ่งหนักหนาเข้าไป จวนเจียนๆ แต่ก็ประคองๆ กันมาได้ถึงตอนนี้



ก็อยากจะรู้เหมือนกันว่า จะเป็นอย่างไงต่อ ถ้าทางเจ้าของสนามเคลียร์กันได้ เห็นแก่อนาคตของทีมด้วย อนาคตของสนามด้วย หันมาสนับสนุน ก็วินวิน

แต่ถ้าเกิดเปลี่ยนใจ ไปเอาทีมอื่นมาแทน คราวนี้แหละ คงต้องวุ่นวายไปหมด

ก็อยากบอกกองเชียร์ว่า อย่าเพิ่งโทษทีมเลย นัดนี้มันเล่นยาก เห็นๆ ว่า เค้ากะล้มทั้งทีม ทั้งโค้ชด้วย ก็ต้องระวังมากเป็นพิเศษ ไม่ถูกใจกองเชียร์ ขาลุย


แต่ก็ไม่ได้หนีหายไปไหน ยังค่อยๆ ขยับเลื่อนชั้นขึ้นไปเรื่อยๆ ทีละนิด ยิงได้บ้าง เสมอบ้าง แต่ยังไม่เคยแพ้ ก็ค่อยๆไต่ขึ้นไป


เมื่อเรื่องราวมันกระจ่างทั้งหมด อีกหน่อยคง ทั้งกรรมการ ทั้งเจ้าของสนามจะทำอย่างไง


อย่างไร ไม่ต้องห่วง ทีมก็ยังตั้งหน้าตั้งตา รักษาคุณภาพ เกียรติภูมิ ไว้อย่างดีที่สุด ใครไม่เข้าใจ ใครจะว่าอย่างไร ก็รอเวลาให้ความจริงปรากฏแล้วกัน...



วิ.18 ธค. 59




วันอาทิตย์ที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2559

เจ้าหน้าที่ที่รัก


เห็นใจคุณตำรวจชั้นผู้น้อยท่านนี้มาก  คงอึดอัดเลยเขียนมาแบบนี้ 


-----------@------------


เสียงจากตำรวจผู้น้อย เมื่อนายใหญ่สั่งลุยวัดพระธรรมกาย 

"ผมเคยบวชที่วัดพระธรรมกายครับ" 
"ลูกชายผมเคยบวชเณรภาคฤดูร้อนในโครงการของวัดนี้" 
"ลูกผมเป็นเด็กดี V-star กราบผมทุกวัน เพราะวัดนี้สอน" 
"ผมโปรยดาวรวยต้อนรับพระทุกปี" 
"ผมพาลูกๆมาดูนิทรรศการนรกสวรรค์ ที่วัดทุกปี" 
"ภรรยาผมมาวัดนี้ทุกวันอาทิตย์" 
"แม่ผมสวดมนต์หน้าจอ DMC ทุกวัน" 
"ผมห้อยเหรียญหลวงปู่ที่ได้รับจากหลวงพี่วัดนี้"  
"ออกเวรเลิกงานผมกับครอบครัว ไปสวดธัมมจักกฯที่วัดนี้" 
"ผมว่าวัดนี้ไม่มีอะไรชั่วร้าย เจ้านายผมต่างหากที่ชั่วร้าย"

-----------@------------

ก็อยากจะแนะนำนะ  คนเราเกิดมาก็เท่านี้  สั่งสม บุญ บาปเก็บไป ชีวิตเป็นของเรา  แค่เงินเดือนแลกข้าวไปวันๆ  เอามาคิดซื้อชีวิตเราขนาดยอมตกนรกทั้งเป็นเลยหรือไร แล้วไม่ใช่แค่ตกนรกชาติเดียวซะที่ไหน ใครสั่งก็ไม่ได้มารับผิดชอบกะเรา 

ไม่เป็นอาชีพนี้ ก็จะเป็นอาชีพนั้น  ถ้ามีบุญทำอะไรก็สำเร็จ  ไม่เห็นต้องถูกบังคับแบบนี้  ทาสก็เลิกไปต้องนานแล้ว  มาเป็นทาสเงินเดือน  ก็ลองคิดว่าคุ้มไหม 

ไม่ก็เอาอย่างในรูปข้างบน

คิดเยอะๆ เถอะ 
วิ. 10 ธค. 59


วันเสาร์ที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2559

หยุดม้าที่ริมผา



ตำรวจ ดีเอสไอ ผู้ใหญ่ในเวลานี้
ตกลงท่านจะเป็นจิ้งหรีดให้มโนปั่นหัวเล่นหรือไร ยุซ้าย ยุขวา พูดจากุเรื่อง  พูดจริง เศษหนึ่งส่วนล้าน  เท็จบานเบิก  ก็ไปเชื่อมันได้ 

เชื่อไม่เชื่อเปล่า กลับมาเบียดเบียนพระเณร  คนวัด  เหมือนอาชญากร เพราะคำพูดเชิงกระตุ้นของคนที่มีแต่ความพยาบาท อาฆาต เนรคุณ  

ท่านผู้มีอำนาจ  ยืนนิ่งๆ  หายใจลึกๆ หยุดคิดสักนิด โตๆกันแล้ว ทบทวนการกระทำกันหน่อย

ตั้งแต่ต้นจนถึงปัจจุบัน  วัดทำอะไรบ้าง  หลวงพ่อทำอะไรบ้าง  แล้วภาครัฐทำอะไรบ้าง  

ดูเหมือนทางฝ่ายวัดจะถูกบีบ โดยทำอะไรไม่ได้เลย ต้อนซ้าย ต้อนขวา จนจะไม่มีที่ยืน ท่านทำทำไม

ท่านก็ว่าของท่าน ตั้งข้อหา เงื่อนไขต่างๆ ที่ไม่มีใครทำได้  หยุดก่อนที่จะตกลงไปสู่เหวลึก ที่จะไม่มีใครได้อะไรนอกจากความพินาศ

ด้วยแรงยุ จากพาลเพียงคนเดียว  ทำความเดือดร้อนแก่ชนหมู่มากปานนี้

ขอวิงวอนให้ท่านหยุดคิดทบทวนสักนิด

ว่าท่านตกลงไปในกลลวง เป็นเครื่องมือทำลายพระศาสนาให้กับ คนเนรคุณไหม

ทหาร ตำรวจ ที่เป็นที่พึ่งของประชาชน  กำลังจะแสดงแสนยานุภาพอีกครั้ง  ด้วยการทำลายล้างวัด  คนแก่เฒ่า  เณรตัวน้อยๆ  ตามแรงยุ ของมโน เนรคุณ

อย่างนี้ใช่ไหม
หลังจากตัดสินใจ ชีวิตที่เหลือของพวกท่าน  จะอยู่อย่างไร กับความรู้สึกละอายต่อการกระทำนี้

ขอให้ทุกท่านจงอยู่เป็นสุข
ขอให้ทุกท่านพ้นจากความทุกข์
ขอกรรมที่ชั่วช้าของท่าน จงอย่าเพิ่งส่งผล ให้ท่านพบพระพุทธองค์ บรรลุธรรม หนีกรรมอันชั่วช้านี้ไปได้กลายเป็นอโหสิกรรม  เทอญ


วิ  3 ธค 59

วันศุกร์ที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

หลวงพ่ออยู่ที่ไหน..?


หลวงพ่ออยู่ไหน...?

หยุด  หยุด  สมณหยุด...!

เห็นข่าว บทความต่างๆ ช่วงนี้ ที่เขียนให้หลวงพ่อหนีไปต่างประเทศ ไปออสเตรเรีย ไปพม่า ไปเมกา แล้ว ทำให้นึกถึงเรื่องของพระองคุลีมาล ตามไล่ล่าพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

หยุด..หยุด... สมณหยุด มาให้ข้าพเจ้าฟันนิ้ว

พระพุทธองค์ก็ไม่ได้วิ่งหนี เดินไปปกติ แต่องคุลีมาลตามจนหอบ ก็ไม่ทัน

หลวงพ่อท่านก็ใช้ชีวิตปกติของท่าน พวกที่ไล่ล่า ไล่ล้างทำลายชื่อเสียงท่าน ก็ขยันมาก  ป่านนี้คงหอบกันหมดแล้ว

หลวงพ่อท่านใช้เวลาทั้งชีวิตท่าน อุทิศให้พระศาสนา สร้างทั้งถาวรวัตถุ และบุคลากรทางศาสนา สร้างความเข้มแข็งให้กับพระพุทธศาสนา

ในยุคที่คนหันหลังให้วัดหันหน้าเข้าอบายมุข ทำความชั่วกันอย่างมีเกียรติ ทำความดีต้องแอบทำ  

หลวงพ่อท่านลุกขึ้นมาต้านสิ่งเหล่านี้ ซึ่งก็แน่นอนว่า โดยธรรมชาติของการเอาตัวไปกั้นกระแส ขวางทางอะไร ตัวเรานั้น ก็ต้องเปื้อนกับสิ่งเหล่านั้นไปด้วย  คนที่เสียหายจากสิ่งเหล่านี้คงไม่รักหลวงพ่อเท่าไหร่ แม้ว่าจะคิดได้ว่า สิ่งที่ตนผลิต ส่ิงที่ตนขายนั้น ทำลายล้างเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน แต่ก็นำมาซึ่งเงินตรามหาศาล พอที่จะทำลายต่อมศีลธรรมไปได้

ตอนนี้หากมาใช้เล่ห์เพทุบาย มาหลอกถามว่าหลวงพ่อคุณอยู่ไหน.. เพื่อที่จะยกกำลังมาจับท่านละก็

ดูเหมือนว่า ก็พอจะบอกได้นะ  เพราะหลายสิบปีมานี้ นอกจากท่านจะสร้างวัดไว้ทุกจังหวัดในประเทศ เป็นวัดสาขาของวัดพระธรรมกายแล้ว ยังเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ จตุปัจจัยแก่วัดที่ขาดแคลนทั่วไทย โดยเฉพาะภาคใต้สี่จังหวัด สิบสองปีไม่ขาดแม้แต่เดือนเดียว 

หรือต่างประเทศทั่วทุกทวีป ท่านก็สร้างวัดไว้ เป็นร้อยวัด 

ทุกที่ที่กล่าวมา อยากให้ท่านไปอยู่ด้วยจะได้ดูแลอุปัฏฐากท่านให้เต็มที่ จะได้ตอบแทนคุณท่านที่ได้ทำงานหนักมาตลอดชีวิตเพื่อดึงเอาความดีกลับมา

นอกจากพุทธสถานสิ่งก่อสร้างแล้ว สิ่งที่ท่านสร้างไว้ให้กับประเทศนี้ ให้กับโลกนี้คือ สร้างความเปลี่ยนแปลงในใจของศิษย์ท่าน ชี้ให้เห็นเส้นทางที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระอรหัตน์ทั้งหลายได้บำเพ็ญมาก่อน แม้จะยากลำบาก แต่ท่านก็เป็นตัวอย่างให้กับทุกคน

การเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดี ของศิษย์ทุกคน ครอบครัว หมู่คณะ จึงเป็นที่ประจักษ์แก่ใจของพวกเรา

หากถามว่า หลวงพ่อคุณอยู่ที่ไหน

ตอบได้ทันทีว่า

อยู่.... ใน ใจ ของพวกเราทุกคน ไม่มีใครเอาไปไหนได้

จำไว้

วิ. 25 พย. 59

วันศุกร์ที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2559

เงิน และ ข่าว


เมื่อมีคนบอกว่า อย่าเอาเรื่องหนึ่งมาเกี่ยวกับเรื่องนึง คำพูดแบบนี้คือคนที่กำลังเสียเปรียบ กำลังโต้แย้งหาทางไป หรือไม่ก็ตัวโง่งมที่ไม่รู้จักใช้โอกาส ในการต่อรอง

ศิษย์  :    ท่านอาจารย์​.....  ข้าจะทำเช่นไร เมื่อต้องการขยายกิจการ
จารย์:     เจ้าต้องแสวงหาแหล่งเงินทุน แต่เจ้าจงจำไว้ว่า  การติดต่อหาเงินจากธนาคาร เจ้าอย่าไปขอเงิน.. ให้ไปให้โอกาสกับแหล่งเงินทุนนั้น
ศิษย์ :   มันเป็นเช่นไร ไม่ใช่ขอเงิน แต่ให้โอกาสเค้า 
จารย์:   ถ้าเจ้าแบ่งทุนให้คนมาร่วมกันได้ ก็จะเป็นการให้โอกาส มันก็เหมือนกันทุกเรื่องราว การที่เจ้าจะไปตกลงเรื่องอะไรกับใคร  ถ้าเจ้าอยู่ในฐานะที่ต่างกัน วิธีที่พูด หรือ วิธีที่พิจารณาก็ต่างกัน
ศิษย์ :   ข้าก็ยังไม่ค่อยเข้าใจ



จารย์ :  อย่างเช่น ถ้าเจ้ากำลังถูกโจมตี  ทางหนึ่งเจ้าต้องหาทางแก้ข่าว หรือ สู้กันในสังเวียนข่าว แต่อีกทางเจ้าก็ต้องไปคุยในทางลับ กันใช่ไหม
ศิษย์ :  ปกติก็เป็นเช่นนั้น 
จารย์ : การเสียเปรียบหรือได้เปรียบในสมรภูมิข่าว การไปคุยในทางลับเจ้าว่า มีผลหรือไม่
ศิษย์ : แน่นอนก็ต้องมี เวลาเราคุยตอนเราได้เปรียบ ก็เป็นการยื่นมือลงไป แต่ถ้าเราเสียเปรียบก็เป็นการยื่นมือขอร้อง
จารย์ :  ถ้าหากเจ้าเสียเปรียบในเชิงข่าว เจ้าแพ้อย่างหมดรูปในเชิงข่าว ในทางลับเจ้าย่อมต้องยอมรับเงื่อนไขทุกเงื่อนไข  ยิ่งในทางปฏิบัติ เจ้าอาจจะต้องยอมแพ้ต่อผู้ที่คิดร้ายต่อเจ้า คือ จะแพ้ไปทุกสนาม ดังนั้น เจ้าก็ต้องสู้ให้ชนะทุกสนาม ไม่ว่าจะมีกี่สนาม ถ้าชนะได้แล้วค่อยไปต่อรองทั้งทางลับ และเปิดเผย



จารย์ :  การไปหาแหล่งเงินกู้ก็เช่นกัน ถ้าเจ้าทำให้แหล่งเงินกู้เชื่อได้ว่า เค้าจะได้เงินเพิ่มจากเจ้าแน่นอน เค้าก็จะถือว่า เจ้าให้โอกาสเค้า 
จะทำให้เค้าเชื่อว่าเค้าได้โอกาสเจ้าก็ต้องทำอย่างอื่นไปด้วย จะเป็นอะไร ก็แล้วแต่เรื่องนั้นมันจะมาเกี่ยวอะไร



ที่สำคัญ เจ้าต้องคิดว่า 
" ศัตรู ของเจ้าจะยอมดีกับเจ้า 
ไม่ใช่เพราะสำนึกในการกระทำของเจ้า 
แต่ที่วันนี้ ศัตรูของเจ้ายังไม่ทำอะไรเจ้า 
เพราะเค้ายังเห็นว่า เวลานี้เค้ายังเสียเปรียบต่อเจ้า
จึงยังไม่ลงมือ "



วันอังคารที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2559

หูแว่ว..


พักนี้ไม่รู้เป็นอะไร หูแว่ว.....

แว่วมาว่า  

ปุ๊งเหน่ง หูกระต่ายแดง ที่ทำหน้าที่เป็นสายสืบให้  บอกมาก่อนหน้านี้ว่าจะออกหมายมาถึงหลวงพ่อวัดใหญ่ อีกใบ 

อันนี้ ก็มาแล้ว ... ขยันมาแท้ ไอ้หมายเนี่ย เดี๋ยวก็จะพัฒนาจากหมายเรียกเป็นหมายจับอีกใบ  เรื่องมึนๆ ที่ เวิล์ดพีช มั้ง  แว่วๆ


แว่วมาอีกเรื่อง  ปุ๊งเหน่งเจ้าเดิม ส่งซิกแนวมาว่า  หมาต๋า พยายามหาเรื่องยึดอาคาร ในสาขาต่างๆที่สวยๆ ใหญ่ๆ อาจจะมายึดอาคารแถวๆ รอบวัดใหญ่นี้ด้วย  


ด้วยเหตุผลแบบฟังแล้วอาจจะไปอ้วกสามรอบ กินข้าวไม่ลงไปอีกสองวัน เพราะเน่ามาก..อันนี้ก็ไม่รู้ต้องรอฟังกัน 

แล้วก็มีทางเป็นไปได้ว่า จะเอาอาคารเหล่านั้นเป็นตัวประกัน มาเรียกค่าไถ่จากวัด  หรือวัดไม่สนใจถ่ายออกมาคืน ก็เอาไปขายไม่ก็ย้ายเอาไปทำหน่วยราชการอะไรแทนซะเลย  



อันนี้ แถวบ้านเรียก มาเฟียเลย นะเนี่ย  ยึดที่นาเอาไว้ เอาลูกสาวมาขัดดอก นี่มันละครน้ำเน่าชัดๆ หรือเป็นพวกเมายาบ้า ยากันยุง เดินมาจับเสาหน้าบ้าน เอามีดจี้ ตะโกนบอกคนในบ้าน  ถ้าไม่อยากให้บ้านพัง เอาตังค์จ่ายวุ้ย กูจะไปอัพยา เห้ยยยย

แต่อันนี้สายปุ๊งเหน่ง บอกมา ก็เล่าให้ฟังกันเอง จุ๊จุ๊ อย่าบอกใครเชียว เดี๋ยวแผนเค้าแตก

ตอนนี้เค้ากำลังงง กับสถานการณ์ว่าเอาไงกันดี  
ดีเอสไอ ก็ครึ่งผีครึ่งคนอยู่ 
อาการกำลังโคม่า จะไปต่อ หรือว่า จะลากันตรงนี้ยุบหน่วยหนีสังคม ไป  ก็จะมีอะไร ก็เรื่องตับแตกแขวนบานพับนี่แหละ เคลียร์ไม่ลง สังคมไม่โอเคนะ  ประเด็นมันมากมายเกินงาม หนูรับไม่ได้จริงๆ




ส่วนทางจันโอเช นี่ก็กำลังเข้าตาลำบาก วันนี้สื่อถามถึงลูกหลานตระกูลนี้ กันยกใหญ่ ว่าทำไมมีแค่ปิ๊กอัพ คันเดียวเปิดบริษัทก่อสร้างได้ ใช้ทุนบริษัท แค่ ล้านห้า แต่รับงานกองทัพ พันกว่าล้านได้  นัยๆ ว่าเค้าอยากทราบกันจะได้ไปทำบ้าง

เผื่อจะโชติช่วงชัชวาลย์กันทั้งประเทศ หมดทุกข์โศกเลิกจนกันไป มีของดีอะไร ก็แบ่งๆกันบ้าง เพื่อความปรองดองสมานฉันท์ กันเอง 

ไปว่าเค้ามากๆ ก็อย่าลืมเค้ามีท่าไม้ตาย ...​ 
"เรื่องของตะหาน พลเรือนอย่ามายุ่ง..วุ้ย"


ครับท่าน ...     ไปเรื่องอื่นก็ได้



เรื่องสองมาตรฐาน ก็ยังคงความสองมาตรฐานได้ชัดเจน  
ปูทำอะไรผิดหมด  
ไม่ต้องขึ้นศาลก็ได้ 
หน่วยงานคลังจัดการตัดสิน จะรีดเงินเองเลย 
..ส่วนก่อนและหลังปูนั้น ไม่ผิด 
ทำอย่างเดียวกัน เขียนตัวหนังสือต่างกันแค่ชื่อ ก็ไม่ผิด 

เพราะไม่ใช่ปู .. 

รงพักยังเสาโด่เด่ เงินไปแล้วแต่ไม่มีใครสร้าง... 
ไม่เป็นไร ไม่ผิด 

เพราะไม่ใช่ปู

น้ำท่วมปู ปูผิด แต่ตอนนี้ที่กำลังท่วม..​ 
เอ้ย รอระบาย ไม่มีใครผิดหรอก ..​ไรหว่า

เพราะไม่ใช่ปู



ก็ไม่ได้เชียร์ใครนะ แค่แว่วมา
ระวังกันให้ดีแล้วกัน ความไม่ชอบมาพากล 
ทำตัวกันอย่างมาเฟีย แบบนี้ จบไม่สวยกันสักคน 
อดีตที่ผ่านมา ก็เป็นตัวอย่าง
ห้กับผู้มีอำนาจจอมปลอมทั้งหลาย 
ก็ไม่ไปศึกษาให้ดี เดินซ้ำรอยกันอยู่นั่น

วัด..เค้าไม่ได้ไปทำอะไรให้ใครเดือดร้อนเลย 
จ้องทำลายล้างวัด ทำลายพระ
ความพินาศที่หยิบยื่นมาให้พระศาสนา 

จะกลับมาถึงตัวไวกว่าที่คิด

บันไดที่จะพาขึ้นสู่สรวงสวรรค์ มันจะพลิกกลับไปลงนรกซะแทน
เงินทองที่กอบโกยกันไป มันจะไม่ได้ใช้ 

ฟันธง นะฮ้าาา




วันจันทร์ที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2559

Ring of The Lord





One ring to rule them all, one ring to find them,
One ring to bring them all and in the darkness bind them.


Lord Of The Rings เรื่องราวจากบทประพันธ์ ของ  John Ronald Reuel Tolkien หรือที่รู้จักในนามปากกาชื่อ เจ.อาร์. อาร์. โทคีน (1892–1973). เขียนเรื่องนี้ ในช่วงปี 1937-49 ซึ่งอาจจะเขียนก่อนหน้านั้น และได้นำเสนอสำนักพิมพ์ในช่วงนั้น


ชีวิตของโทคีน ที่ผ่าน สงครามโลกครั้งที่หนึ่ง (28 July 1914 to 11 November 1918) และ ครั้งที่สอง (1 September 1939 – 2 September 1945)  เกือบครึ่งชีวิต เห็นการล่าล้างทำลาย ในสังคมแบบนี้ คงไม่สนุกสนานเหมือนในภาพยนต์ที่คนรุ่นหลังได้ชมกันเพลินๆ


แต่การเขียนได้สะท้อนสังคมที่ตัวโทคินได้ผ่านมา  
แหวน ปกครองทั้งหมด..
แหวน จะตามหาที่เหลือ..
แหวน จะนำพวกมันมารวมกัน
และจะพามันไปสู่ความมืดบอด..

ถ้าเพื่อความเข้าใจแบบ อธิบายกันน้อยๆ หน่อย ก็น่าจะเป็น

อำนาจ ปกครองทั้งหมด
อำนาจ จะตามหาที่เหลือ ( คนที่อยากจะใช้อำนาจ)
อำนาจ จะพามันมารวมกัน
และจะพามันไปสู่ความมืดบอด

เนื้อเรื่องที่ โทคินเขียนเมื่ออยู่ในช่วงที่ก่อนเกิดสงครามโลกครั้งที่สอง เพียงสองปี คือเรื่องความขัดแย้งต่างๆ ระหว่างประเทศ เผ่าพันธุ์ กำลังสุกงอม บางอย่างในเรื่องนี้ จึงต้องเป็นการเปรียบเทียบ ใช้แหวนแทนการที่คนที่มีอำนาจสูงสุดผู้โฉดชั่ว 

ใครที่ได้อำนาจชนิดนี้ไป แม้จะดีขนาดไหน ก็เปลี่ยนไปเป็นสัตว์ร้ายในร่างมนุษย์ ทำร้ายทำลาย ทุกชาติเผ่าพันธุ์ ได้ เพียงแค่ต้องการรักษาอำนาจนั้นไว้

ที่นึกถึงแหวน ของ โทคิน ก็เพราะว่า 

แหวนชั่วนี้ ได้กลับมาปรากฎบนโลกนี้อยู่บ่อยๆ ไม่ได้หายไปอย่างถาวร  แค่ลืมตกน้ำ ไปชั่วครั้งคราว 

ครั้งนี้ กลับมาปรากฎที่กะลาแลนด์ แดนหมดยิ้มนี่เอง  
ตอนนี้ ผู้ครองแหวนสวมมันอย่างมั่นใจ 
ใครขวางหน้าก็จัดการเผามัน
ห้มอดไหม้ เสียงดัง ฉี่ฉี่  อยู่ตลอดเวลา

มอดไหม้ ฉี่ฉี่     มอ..ดไหม้  ฉี่ฉี่   ดังกระหึ่มไปทั่วทั้งพระนคร 

ก็อยู่แต่ว่า กำลังรอใครจะมาช่วยกันถอดแหวนนี้ออกไปได้
แต่ก็อย่างที่โทคินเขียน  ใครใส่แหวนนี้ไว้นานๆ นานพอที่จะเปลี่ยนทุกอย่างในตัว จากคนดีๆ เงียบๆ กลายเป็นสัตว์ร้าย สมีกอลไป

เราก็เริ่มเห็นรำไรๆ ว่า มีการเปลี่ยนแปลง ลามไปถึงคนข้างตัว ลูกน้อง เพื่อนพ้อง 

มอ..ดไหม้ ฉี่ฉี่   ดังถี่ขึ้นเรื่อยๆ  


ส่วนอื่นมอดไหม้ไป แต่คนที่ได้ประโยชน์ กลับเป็นคนสวมแหวนนั่นเอง

หรือนี่จะเป็นภาคต่อ ของ Lord of The Rings  
ก็น่าจะเป็นตอน  Ring of The Lord  
ลิง ออฟเธอะ หลอด
ใครเป็นลิง ใครเป็นหลอด ก็รอดูกันต่อไป


ใครที่เคยคิดว่า ให้แหวนไป แล้วแหวนนั้นมันจะทำให้คนๆ นั้น อยู่ใต้อำนาจตลอดไป 

คิดผิดแล้ว

คิดใหม่เถอะ .. คิดใหม่ก็อย่าให้ผิด

ระวังนะ ได้แหวนชี้เป็นชี้ตายไป มันจะชี้ไปถึงคนให้ ตายไปด้วย 

ถ้าไม่รีบช่วยกันถอดแหวนกันซะ  

เดี๋ยว หลอดจะได้กลายเป็นลิงจริงๆ







วันอังคารที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2559

ใครเอ่ย..ทำเรื่องพวกนี้

บานพับออกแบบพิเศษสำหรับห้องขังเดี่ยวเฉพาะ หัวมน แขวนอะไรไม่ได้
ต้องการรายละเอียด กดติดต่อ

ใครเอ่ย...​

หน่วยงานไหนที่ 
มีความมุ่งมั่น ส่งเสริมการไร้ศีลธรรม 
(Determination Supporting Immorality )  
แม้จะมีการตายที่สังคมรับรู้ว่า 
มีการซ่อนเร้น 
ปกปิด 
ทำให้เห็นความมุ่งมั่น
ที่จะทำให้เรื่องดูเป็นการฆ่าตัวตาย




ใครเอ่ย...​

หน่วยงานไหนที่
ได้สร้างความเจ็บปวดอย่างรุนแรง
ในเรื่องของความไร้ศีลธรรม 
(Distressed Severe Immorality) 
ในเรื่องที่พูดแถ ลง ทุกครั้งก็เปลี่ยนแปลงไป 
ไม่สามารถทำให้หมู่ญาติของผู้สูญเสียได้รับคำตอบที่พอใจ 
ในหลายๆ คดี 



หน่วยงานไหนที่ 
ไร้ศีลธรรมเลวทรามอย่างที่สุดได้ตามคาด  
(Despicable Speculating Immorality
แม้กับพระสงฆ์องค์เจ้า ก็แสดงอาการกิริยา
ที่ไม่น่าจะเป็นคนพุทธ 
มีคำพูดที่ไม่ซื่อตรงหลอกแม้กระทั่ง 
วัดวาอาราม  บอกว่ามาสอบที่วัดไม่ได้  
เร็วๆ นี้ ก็ลงข่าวกันเต็มไปหมด ว่าตำรวจอีกสังกัด 
ได้ไปสอบสวนที่วัดที่หน่วยงานนี้ บอกว่าไม่ไป ไม่ได้ 

หน่วยงานไหนหนอ?



ใครตอบถูก ให้เอาไอติมมาเลี้ยงด้วย....








วันศุกร์ที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2559

Die Sure I'm



นั่งดูข่าวมาหลายวัน เรื่องนี้ก็ไม่อยากจะกล่าวถึง สักเท่าไหร่ 
ทั้งเรื่องของท่านผู้ที่เสียชีวิตไปแล้ว และหน่วยงานที่รับผิดชอบ

แต่เห็นเนื้อข่าวมาหลายวัน 

ต้องบอกว่า  
" เหลือทน"  

"มั่วได้ใจ" 

"อึดอัดที่สุด"

จะไปพูดถึงหน่วยงานอื่นไม่ได้แล้ว 
วินาทีนี้   ก็คงต้องพูดถึง 
สอบสวนพิเศษฯ เรียกกันติดปากว่า DSI  
ที่ในเวลานี้ตกเป็นผู้ต้องหาของสังคม

ที่จริงหน่วยงานนี้ มีสโลแกนที่แสนจะโก้ว่า 
"ความยุติธรรมที่พึ่งได้"

อ่านดูแล้ว ภาษาไทยมันก็ดิ้นได้นะ  
ความหมายแรก อาจจะ เป็นที่พึ่ง  
เป็นหน่วยงานที่สถิตย์ไว้ซึ่งความยุติธรรมที่ให้ประชาชน 
ไม่เลือกวรรณะ ผิวพรรณ เชื้อชาติ ศาสนา 
ได้พึ่งด้วยความเท่าเทียมกัน 
ภายใต้กรอบของกฏหมาย  
อันนี้น่าจะเป็นเสมือนภาพที่วาดไว้ในอากาศ 
อาจจะโดนลมพัดพาไปได้ในทุกวินาที

ส่วนอีกความหมาย  ถ้าเป็นความยุติธรรมที่พึ่งได้    
คือ พึ่งได้มาใหม่ๆ  ยังใช้ไม่ค่อยเป็น 
เก้ๆ กังๆ มีหลุดบ้าง ติดบ้าง ก็ไม่ว่ากัน  

ถ้าเป็นแบบหลัง ก็คงพออภัยกัน 
แค่ตายนิดตายหน่อย อืมม ไม่น่าใช่นะ

แบบว่า..ไฟดับๆ ติดๆ 
มองไม่เห็นเดินไปเหยียบผู้ต้องขัง 
ตับแตกซะงั้น ก็คงอธิบายได้ 
เพราะมือใหม่ หัดขัง  

แต่ดูแล้วไม่น่าจะใช่ อีก
อาคารการก่อสร้างแบบว่า ที่สุดของเทคโนโลยี 

บุคลากรก็แบบว่า..
คัดแต่ยอดฝีมือมารวมกัน
สร้างหน่วยงานนี้

เห็นจากคดีความอื่นๆๆๆ  ทั้งของฝรั่งจีนไทย 
ที่เข้าไปเกี่ยวข้อง บางคดีที่ยังเห็นมาทวงถามเช่น 
ชาวจีนที่ตายที่เกาะสมุย DSI ก็ไม่รู้เกี่ยวอย่างไง 
ไปสรุปจบง่ายๆ จนเค้าคาใจ 
แสดงถึงความสามารถ
ในการทำงานรวดเร็ว ฉับไว ไม่เกรงใจใคร 


หรือจะคดีที่เกี่ยวกับพระ กับวัดขณะนี้ 
ก็เห็นขยันซะ ไปสืบค้นหาหลักฐานพลิกแผ่นดิน 
ไปตามบ้านร้านตลาดป่าเขา ไปหาหมด 
อันนี้ก็ได้คะแนน ความทุ่มเทไปเต็มๆ 

แต่พอมาถึงคดีที่เกิดในสำนักงานตนเอง

กลายเป็นละครน้ำเน่าซะงั้น  
ชาวบ้านเดาตอนต้น ตอนกลาง ได้หมด  
สงสัยว่าตอนจบจะเดากันถูกไหม แค่นั้น 

มาแบบไหน  ขออภัยผู้ที่ล่วงลับ ไปแล้ว  ที่ต้องกล่าวถึง
คดีความยกไว้ ขอแค่เรื่อง การที่DSI  ออกมาแถลง ละกัน

ผู้ตายสิ้นชีวิตตอนตีสี่กว่า ตามที่หมอเหรียญทองบอกว่า 
ได้รับแจ้ง 01:10 น. ว่ามีคนเป็นลมที่ สนง.DSI
รพ. ก็อยู่ข้ามถนนสี่เลน ตอนตีหนึ่งรถก็ไม่น่าติด น่าจะสักห้านาที ก็คงไปถึง  ปฐมพยาบาล แล้วแจ้งว่า 
เสียชีวิตตอนราว 04:00 น. 
บวกลบนิดหน่อย



อันนี้ก็ต้องเชื่อหมอ เพราะเป็นผู้รับรองในใบมรณบัตร เวลาและสาเหตุ..... 

แต่รุ่งขึ้นตอนเช้า DSI ก็รีบ "แถ ลง" เลยว่า ไปเจอ ตอน 2:00  ว่าแขวนคออยู่กับบานพับ 

มั่ว..เวลา หนึ่งล่ะ
มั่ว..สาเหตุการตายอีกหนึ่งล่ะ

ชันสูตรแล้ว เบื้องต้น พบว่า ตับแตก และ มีรอยที่คอ

อันนี้ ประชาชนอย่างเราๆ ร้องพร้อมกันว่า เอาอีกแหละ... กะลาแลนด์ แดนตัดตอน ???

DSI  "แถ ลง"  อีกรอบว่า ตับแตก น่าจะเกิดจาก การปฐมพยาบาล

หมอร้อนเลย ก็ต้องออกมาชี้แจงว่า อิมพอสซิเบิลนะ นายยยย  หัวใจกะปอด มันอยู่คนละข้างนะนายยย กดอกซ้าย ชายโครงขวามันไม่เกี่ยวนะนายยยจ๋า

หมอเหรียญทองคนดี เก็บขยะสังคมมานักต่อนัก  ก็ชี้แจ้ง แบบฟันธงทันทีวันนั้นเลยว่า  เรื่องนี้นะเป็นฆาตกรรม คนของดีเอสไอ ต้องเกี่ยวข้อง แน่นอนนนนนน  

ประชาชน ร้อง ว้าว  หมอสุดยอด อย่างกะหนังตอนฝรั่ง แค่ดูศพ สามารถบอกได้เลยว่า เป็นคนของหน่วยงานไหน

ร้อนไปถึง รมต.ยุติธรรม บิ๊กต๊อก เห็นเด็กในสังกัด เริ่มไม่อยู่ในร่องรอย  เลยแกว่งเท้ามาให้เสี้ยนตำสักหน่อยว่า หมอ..จะพูดอะไรต้องมีหลักมีฐานหน่อย ..  หมายความว่า พูดแบบนี้มันเดือดร้อนนะวุ้ย

หมอต้องออกมาพูดเพิ่มเติมว่า  เอ้อ   ไอ้ที่ว่า มี DSI เกี่ยวน่ะ  หมายถึงตัวเล็กตัวน้อยนะ  ตัวใหญ่ไม่เกี่ยว...

โอ้โห ประชาชนอย่างเราๆ ยกนิ้วโป้งให้ ทั้งสี่นิ้วเลย  
สืบจากศพในหนังหลบไป  
นี่เลยของจริง รู้เลยว่า 
ตัวเล็ก เกี่ยว 
ตัวใหญ่ไม่เกี่ยว​..​
สุดยอด ซือโก้ย ซูฮก ... 

น่าจะบอกด้วยนะว่า ไอ้คนที่เกี่ยวนี่ ชอบสีอะไร ติดดาราคนไหน ละครอะไรที่ชื่นชอบ  โหยย

สองสามวันที่ผ่านมา ที่เห็นคือ DSI พยายามอย่างยิ่งที่จะไปทำคดีความอื่น  แม้ว่าจะมีข่าวใหญ่ๆ หลายข่าว สนธิติดคุกยี่สิบปี ซึ่ง ประชาชน อย่างเราๆ ก็กำลังคาดเดาว่า จะอยู่ถึงเหรอ  เรื่องในและต่างประเทศ วัดวาอาราม สร้างพระแกะหิน ฯลฯ  แต่ก็ไม่อาจลบความสนใจของ ประชาชน อย่างเราๆ ไปได้

ต่อมาก็เรื่องกล้องวงจรปิด  ปิดไม่มิด
เริ่มต้น ไม่มีกล้อง  ..ก็ภาพหลุดออกมาหรา ขนาดนั้นไอ้ที่ติดบนเพดานมันก็กล้องนี่แหละ คนเค้าเคยเห็นนา มีขายเยอะตามห้างร้าน


โอเค มีก็ได้  แต่ไม่มีในห้องขัง มีแค่ทางเดิน.. 
ก็พอฟังได้นะ เพื่อเคารพสิทธิ  แต่มีคนไปเอาคำพูดตอนที่ DSI โชว์ว่า ห้องขังของตนนั้น ดีขนาดไหนตอนเริ่มต้น บอกเลยว่า น่าอยู่ ปลอดภัย หลับสบาย ห้องน้ำในตัว คนดูแลยี่สิบสี่ชั่วโมง มีกล้องไว้ดูแลเป็นพิเศษ... 

โอเค โอเคๆๆ   กล้องก็มี  แต่ เซิร์ฟเวอร์เสีย... 
อุ๊ย .. ก็แล้วแต่ท่านละครับ  น้ำขุ่นขนาดนี้ท่านยัง ไปได้  พึ่งได้ๆ

นี่ดีนะ ไม่มีใครไปเปิดดูว่าเสียจริงๆ ไหม  อาจจะมีพอดีตอนนั้นแผ่นดินไหว ไฟดับ ซึนามิ เครื่องบินตก มดเข้าไปทำรัง อะไรอีก ....​

ประชาชนอย่างเราๆ   เข้าใจครับ  เรื่องนี้มันก็ต้องเป็นอย่างนี้อยู่แล้ว แต่ขอเสนอนะ สำหรับการปรับปรุงห้องขัง  

ขอให้เพิ่มกลอนข้างใน สำหรับผู้ต้องขัง ใส่ไม่ให้ใครเข้ามาได้ ด้วย

ก็นึกว่าเรื่องจะค่อยๆ จางๆ ไปได้บ้าง 

วันนี้  ท่านก็ออกมา "แถ ลง" อีกว่า นี่ไง ใช้ถุงเท้าแขวนกะบานพับอย่างนี้ ... เห้ยยยย 



บานพับแบบนี้ กดดูได้


เห็นที่เค้าถ่ายมาให้ดู
แขวนโอเลี้ยงยังยากเลย  
นั่งกับพื้นด้วย 
แล้วต้องเลี้ยงตัวให้อยู่บนบานพับอันนี้ หัวมนๆ แบบนี้ จนขาดใจตายนี่ ต้องไม่ธรรมดามากเลย 

เรื่องนี้ บริษัทบานพับ น่าจะออกมาฟ้องร้องสักหน่อยนะ ว่าทำให้เสียชื่อเสียง บริษัทบานพับหมด เพราะดูแล้วความเป็นไปได้ น่าจะต่ำกว่า ติดลบห้าร้อย 

เราก็ดูกันต่อไป ว่า เรื่องราวมันจะไปทางไหน จะมีหน้าไหนออกมาแสดงความรับผิดชอบไหม ที่ทำให้มีคดีแบบนี้ในสถานที่ๆตนเองรับผิดชอบอยู่   ที่สำคัญคือ อย่าเป็นมวยล้มต้มคนดูก็แล้วกัน

" ประชาชน อย่างเราๆ"  เบื่อฟางที่กินอยู่นี่ เต็มทนแล้ว



วิ. 9/9/59

วันศุกร์ที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2559

ไอ ไม่กลัว ยู ถึงวันนี้ชัดเจน


อยู่ๆ กัปตัน ก็ประกาศก้อง ว่า

"ไอ ไม่กลัว ยู"

เสียงดังไปทั่วเรือทั้งลำ  ผู้คนที่อยู่บนเรือลำนี้นับล้านคน ต่างก็งุนงง กับสถานการณ์ ว่าเกิดเหตุการณ์อะไร

ตั้งแต่เรือลำนี้ ออกจากท่า เริ่มเดินทางไกล ในห้วงน้ำใหญ่ ผจญกับคลื่นลม สัตว์ร้ายมาเป็นระยะ แต่ก็ไม่ทำให้ กัปตันผู้ยิ่งใหญ่ ชำนาญการในเส้นทาง ตื่นเต้น หวั่นไหวได้

ทุกครั้งที่มีเหตุการณ์ใดๆ ก็มีเพียงรอยยิ้มเล็กน้อย แล้วก็ให้ทุกส่วน ทุกหน้าที่ทำงานกันต่อไป ด้วยใจที่มีสุข 


แต่ครั้งนี้ ท้องทะเล ยังสงบอยู่แท้ๆ  สัตว์ร้ายใดๆ ก็ไม่เห็นมี ไม่ทราบว่าท่านได้รับสัญญาณใดทำให้ท่านถึงกับประกาศก้องไปทั่ว ว่า 


"ไอ ไม่กลัว ยู"

แล้วก็เป็นดั่งคำประกาศิต ของท่านกัปตันจริงๆ 
ตั้งแต่เดือนมีนา ก็เกิดเหตุการณ์ที่ทุกผู้คน
ที่กำลังเดินทางไปในเรือลำนี้ได้เข้าใจว่า 
ทำไมกัปตันถึงได้ประกาศเช่นนี้

คลื่นลมแปรปรวน พายุลูกแล้วลูกเล่า โหมกระหน่ำ
สัตว์ร้าย รวมตัวกันเป็นฝูง บุกเข้าทำลาย เรือลำนี้เป็นระลอก ต่อเนื่องแบบที่ไม่เคยพบเห็น



ภัยจากเศรษฐกิจ ความวุ่นวายทางการเมือง เหมือนดั่งคลื่นลมที่แปรปรวน ปั่นป่วนถึงกับทำให้เรือ โคลงเคลงไปมา

ภัยจากคนพาลทั้งหลาย ทั้งที่มีหน้าที่ตำแหน่ง ทั้งที่ไม่มี เหมือนสัตว์ร้าย ก็ยังโหมมาต่อเนื่อง ทุกทิศทุกทาง

ดีที่ กัปตันผู้นำเรือลำนี้ ไม่ประมาท  ไหวทัน ประกาศก้องก่อนที่เหตุจะเกิด ทำให้พวกเราไม่ต้องตกเป็นเหยื่อของความวุ่นวายในครั้งนี้




แต่ว่าเรือนี้ ก็ยังไปไม่ถึงฝั่ง แม้ ณ เวลานี้ คลื่นลม ดูเหมือนจะลดแรง เป็นเพียงลมพัดเบาๆ แต่ก็ยังไม่สามารถไว้ใจได้ อาจจะกลับกลายเป็น พายุใหญ่ได้ทุกขณะจิต


เราต้องไม่ประมาทในทุกด้าน ทุกที่ๆเราทำงานในเรือลำนี้ ทุกๆ ตำแหน่งแห่งหน  ทุกๆ คน ต้องคอยระวังรักษาตัวเอง และหมู่เพื่อนพ้อง ช่วยกันปรับปรุงเปลี่ยนแปลงตัวเรา หมู่คณะให้เหมาะกับการเดินทางในช่วงนี้ 

แม้เรือที่ลงมาด้วยกันมานานแสนนาน ก็ต้องปรับเปลี่ยนให้เหมาะกับสถานการณ์  เราจะต้องไปด้วยกัน จนถึงฝั่งให้ได้แม้จะอีกไกลแสนไกล นานแสนนานเพียงใดก็ตาม 

แม้ว่าเรือลำนี้อาจจะต้องเปลี่ยนจากเรือเดินทะเล เป็นเรือข้ามภพ ข้ามจักรวาลก็ตาม อย่างไรก็ต้องมีเรา



มีอย่างนึงที่พวกเราเห็นตอนนี้ก็คือ สัตว์ร้ายมันร้ายจริงๆ  แต่ความร้ายกาจนั้น มันทำให้สัตว์ร้ายเหล่านั้น มันเริ่มกัดกันเอง กินกันเอง ถึงกับฆ่ากันเอง 

คงลืมพวกเราไปได้สักระยะ
น่าจะกัดกันให้สูญพันธ์ไปเลยยิ่งดี 



เสียเวลาในการเดินทางของพวกเราแท้ๆ

ขอให้เส้นทางสายนี้ เราสามารถเดินทางได้โดยสะดวก
ขอให้กัปตันของเรา แข็งแรง นำทางเราไปอีกนานแสนนาน
ขอให้เพื่อนพ้องพี่น้องทุกคน มีความสุขไปด้วยกันจนถึงฝั่ง

ขอให้สัตว์ร้ายทั้งหลาย มีความสุข
ขอให้สัตว์ร้ายทั้งหลาย หมดทุกข์
ขอให้สัตว์ร้ายทั้งหลาย กลับใจหันมาสู่ความสว่าง ทิ้งความเป็นสัตว์กลับมาเป็นมนุษย์สุดประเสริฐ ....เทอญ

สาธุ
วิ. 2 กันยายน 59

  

วันพุธที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2559

หมูไปไก่มา.. หมากินหมด

อยากถาม คุณท่านทั้งหลายว่า

คุณจะใช้คนแบบนี้ไหม

ถ้าคุณจะทำกับข้าวเลี้ยงแขกเหรื่อที่มางานสำคัญของคุณ   แต่รู้มาว่า พ่อครัวคนนี้ ชอบโกงพวกวัตถุดิบ โก่งราคา  เอาลูกน้องที่เกกมะเหรกเกเร มาช่วยบริการอาหารคนในงาน 

เอาไหม ?

ถ้าคุณจะสร้างบ้าน คุณเลือกช่างที่โกงค่าแรงคนงาน ทิ้งงานจนมีชื่อเสียง โกงนายจ้างจนเป็นนิสัย 

เอาไหม ?

ถ้าคุณจะส่งลูกไปเรียน คุณเลือกโรงเรียนที่มาตรฐานต่ำ  มีแต่เรื่องขอค่านั่น ค่านี่ตลอดเวลา ไม่เอาใจใส่ที่จะให้ลูกคุณมีความรู้  ไม่รู้จักคุณธรรม  เพื่อนนักเรียนก็มีแต่พวกที่ไม่ค่อยน่าไว้ใจ 

เอาไหม ?

คน หรือ หน่วยงานที่มีปัญหา จนถูกจับได้  ไม่ใช่ว่าสิ่งที่เค้าทำผิดนั้น มันเพิ่งทำ แล้วโดนจับได้ แต่มันทำมาเป็นนิจ จนเป็นเหมือนตรายางประจำตัวว่า คนๆนี้ หน่วยๆนี้ มันก็เป็นอย่างนี้

โกงจนมียี่ห้อ  

คุณจะเอาไหม จะใช้ไหม ?

คุณอาจจะคิดว่า ใครมันจะเอาไปใช้ คนเลวๆ อย่างนี้ 
ใครเอาไปก็บ้าแล้ว 

ไม่แน่นะ บางคนเค้าเลือกคนเค้าเลือก
เพราะจะเอาความเลวที่คนนั้นมีนั้นแหละ  
เพราะคนเลวก็มีจุดอ่อนทุกคน ยิ่งโจรห้าร้อย 
ก็ยิ่งกลัวผู้รักษากฏหมาย

แล้วยิ่งถ้าคนที่มีหน้าที่เลือก ก็เลวพอกัน 
จะสร้างทีมเลวๆ มา เพื่อทำงานเลวๆ 
อย่างนี้ไปตรงไหน ก็ซวยตรงนั้น

อย่างไร คนอย่างพวกเราก็ไม่เอาหรอก จะเอามาให้ เสื่อมไปด้วยกันทำไม

อย่า ...คุณอย่าเพิ่งคิดว่าคนอื่นเค้าไม่เอาเหมือนคุณ  
ก็..เพราะคุณเป็นคนดีมีศีลธรรมไง จึงไม่อยากไปยุ่งกับคนแบบนี้



คุณเชื่อไหม ว่าคนเช่นนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่บางคน เค้าไม่คิดอย่างคุณนะ

ไม่ได้กล่าวหานะจะบอกให้

หลักฐานชัดเจน 




ที่แต่งตำรวจนี่ ก็นายตำรวจท่านหนึ่ง ซึ่งช่วงนี้ขยันมาก รับงานใหญ่  เหนือใต้ออกตก คงเคยเห็นหน้าค่าตากัน ในภาพนี้ ก็กำลังไปชี้เขตกันกับ  " ผู้ชำนาญการในการดูแผนที่ " ท่านหนึ่งที่ชื่อว่า วิฑูรย์ ชลายนนาวิน  ชื่อนี้สำคัญไฉน


งั้นดูข่าวนี้นิดนึง
จาก เวปของเดลินิวส์

จากเวปของ มติชน

จากเวปของไทยรัฐ
http://www.thairath.co.th/content/338202

จากเวปของนักกฏหมายท่านหนึ่ง



สรุปเนื้อข่าว ให้สั้นๆ คือ 

กระทรวงทรัพยากรฯลงดาบเชือด “วิฑูรย์ ชลายนนาวิน” รองอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง อดีตรองอธิบดีกรมป่าไม้ โทษหนักถึงไล่ออก เหตุทำให้ราชการเสียหายจากการแปรภาพถ่ายเอื้อประโยชน์เอกชน ออกโฉนดที่ดินหาดฟรีดอมบีช จ.ภูเก็ต และหาดเจ้าไหม จ.ตรัง

อ่านข่าวต่อได้ที่: http://www.thairath.co.th/content/338202


ข้าราชการแต่ละท่านกว่าจะไต่เต้าไปจนถึงตำแหน่งรองอธิบดี ไม่ใช่จะง่ายๆ และได้กันทุกคน 
ยิ่งไปถึงแล้ว โดนโทษทางวินัยร้ายแรง หนักถึงขั้นไล่ออก นี่ยิ่งมีน้อยกว่าน้อย

แม้ว่าขณะนี้กำลังมีการอุทธรณ์ อะไรกันอยู่ แต่ว่าเรื่องที่ศาลชั้นต้นพิจารณาไปแล้วนั้น ก็ต้องเป็นสิ่งที่เหมือนตราประจำตัว

แล้วคนอย่างนี้ที่ นายตำรวจท่านนั้นเอามาใช้ อ่านแผนที่เพื่อเอาผิดกับวัดพระธรรมกาย

ถามว่าไม่มีคนอื่นแล้วเหรอ ที่ซื่อสัตย์ เที่ยงตรง กว่านี้น่ะ มีไหม
ที่จริงประเทศนี้ ก็มีหลายคนนะ แม้ไม่มากก็ตาม แต่ที่เหลือนั้นไม่มีประวัติเสียหาย ด่างพร้อยเลย มีคนนี้คนเดียวเลย ที่มีปัญหา

สมมตินะว่า  ตอนนี้กำลังอุทธรณ์กันอยู่เนี่ยแหละ  นายตำรวจท่านนี้ก็บอกว่า เอาล่ะ คุณชี้ดีๆ นะ .. เอาแบบที่ผมทำงานต่อได้นะ..นิดดดนึง..นั่นแหละ 


แล้วอีกไม่กี่วัน อุทธรณ์แล้ว เรื่องราวมันกลับตาลปัตร เปลี่ยนคำพิพากษาศาลชั้นต้น อะไรอย่างนั้นน่ะ นี่สมมตินะ 

ก็เข้าใจกัน วิน วิน ทุกฝ่าย เว้นวัดพระธรรมกาย.. 

อย่างนี้หรือเปล่านะ.. 
ขออย่าให้ธรณีพิโรธ หวั่นไหว อีก 
ขออย่าให้ธรณีแยกสูบใครลงไป
ขออย่าให้ รถราเครื่องบิน ประสบภัยอะไรเลย 

ขอทุกคนจงปลอดภัย มีความสุข  
ทำดีนะ... แล้วจะดี
มงคลที่หนึ่ง  อย่าคบคนพาล นะนายตำรวจ 
ถ้าพวกพาลคบพาล ก็คงคิดวางแผนทำอะไรกัน
แต่ที่สุดก็ตกลงกันไม่ค่อยจะลงตัว
ก็มักจะมี คดีประมาณ สำนึกผิดในห้องขัง ขอลาไปก่อน

ก็เป็นอย่างนี้ซินะ...


อยู่กันมาจนแก่กันแล้ว ทนๆ อีกนิด ก็ไปอย่างมีสง่าราศี พกคุณความดีไปด้วย  อย่าต้องให้ ตับแตก แขวนไว้ตามข้างฝา ในห้องขังที่ได้รับการดูแลจากตำรวจทั้งกรมกอง เลย...

วิ.31 สค 59





วันจันทร์ที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2559

ลา หนอน กิ้งก่า

เรื่อง ลา หนอน กิ้งก่า


Aesop อีสป ยอดนักเล่านิทานชาวกรีก
มีชีวิต เมื่อ 2580 ปีที่แล้ว


นิทานอีสป เมื่อก่อนจำได้ว่าตอนเด็กๆ นั้น
ได้อ่านหลายเรื่อง  บางเรื่องก็นำมาเป็นพื้นฐาน
ในการคิด เปรียบเทียบคน 

เช่น เด็กเลี้ยงแกะ  ชอบโกหก 
จนไม่มีใครรู้ว่าพูดเล่นพูดจริง 
ที่สุดก็เกิดภัยกับตนเอง

ลูกแกะกับหมาป่า  หมาจ้องจะกินแกะ 
แกะอยู่ปลายน้ำ ก็หาว่าทำน้ำขุ่น 
หาข้อหาแบบรับไม่ได้มาให้ ไม่เนียน  

ตั๊กแตน เที่ยวเล่นในฤดูร้อน 
ไม่ยอมตุนอาหาร ไว้ใช้ในหน้าหนาว 
ถึงหน้าหนาว ก็อดตาย

เรื่องเหล่านี้ตอนเด็ก ก็อ่านไปคิดไป 
คิดว่าพวกสัตว์ต่างๆ ที่เค้ายกมานั้น 
คงเป็นอย่างนั้น เป็นอย่างนี้ 
กว่ากาลเวลาจะหล่อหลอมให้รู้ว่า 
นี่คือนิสัยของคน ที่หน้าเป็นคนแต่ใจเป็นสัตว์ 
ตามตัวละครที่อีสป เขียนไว้ ก็หลายปีอยู่

คิดไปคิดมา ยุค พ.ศ.นี้ 2559 ถ้าอีสปยังอยู่ 
คงมีเรื่องเอาไปเขียนอีกเยอะเลย  
วันนี้ลองสวมบทอีสป เขียนสักเรื่องแล้วกัน


เรื่อง ลา หนอน กิ้งก่า



ลา มีชื่อเสียงทางด้านความอดทน 
แต่ก็มีข้อบกพร่องคือ การไม่ค่อยคิดอะไรให้รอบคอบ 
บรรพบุรุษลาที่อยู่ในสมัยอีสป 
แม้จะบรรทุกของมากมาย 
แต่ ก็มักจะเสียหายในตอนท้าย 

เช่น ลากับพ่อค้าเกลือ ลาตัวนั้นเอาเกลือไปละลายน้ำ 
หลายรอบ เพราะทำให้น้ำหนักเบาลง 
โดนพ่อค้าดัดหลังโดยให้บรรทุกฟองน้ำ 
เมื่อใช้วิธีเดิม คือล้มลงไปในน้ำ
เพื่อให้ของละลาย กลับได้น้ำหนักเพิ่มมาแทน   

ลา สมัยนี้เป็นอย่างไง  
ลาสมัยนี้ แม้ว่าจะไม่ได้บรรทุกอะไรแล้ว 
แต่ก็ไม่ค่อยคิดอะไรเหมือนเดิม 
ขอให้เจ้านายใช้งาน 
เป็นกระดิกหาง เดินไปหา 

ไม่คิดว่าที่ให้ไปทำมัน 
มีผลดีกับส่วนรวมอะไรไหม 
ทำทุกอย่างขอให้สั่งมา 

อย่างที่ฝรั่งเค้าเรียกว่า ทำโง่โง่อย่างกะลา  
เพราะลาพอเชื่อใจนายแล้ว 
มันจะยอมให้เค้าเอาเปรียบมันทุกอย่าง 



หนอน  ในนิทานอีสป เรื่องหนอนหนีเที่ยว 
เป็นเรื่องราวของหนอน ที่ชอบหนีพ่อแม่ออกไปเที่ยว 
ถึงแม้ว่า พ่อแม่จะว่ากล่าวตักเตือน 
แต่หนอนก็ไม่ยอมเชื่อฟัง 

วันหนึ่งหนีเที่ยวและมาเจอนกกระยาง
กำลังเดินหาอาหารอยู่ ด้วยความตกใจ
จึงรีบหาที่หลบซ่อน ขึ้นไปหลบภัยบนต้นชาเขียว
นกกระยางมองซ้ายมองขวา ไม่เห็น จึงเดินไปหาอาหารที่อื่น

ส่วนหนอนพ้นภัย เห็นใบชาเขียวอ่อนน่ากิน 
ด้วยความไร้ปัญญาจึงกินใบชาเขียวจนหมดต้น 
ชาเขียวไร้ใบหนอนเลยหล่นลงมาอยู่โคนต้นชาเขียว 

เกือบโดนนกกระยาง ที่เดินย้อนกลับมากิน 
ดีที่พ่อหนอนได้ช่วยไว้ทัน

เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ควรเชื่อฟังผู้ใหญ่ที่คอยสอน
และอย่าระรานผู้มีพระคุณที่ให้ร่มเงา มันจะเดือดร้อน

หนอน สมัยนี้กลับเทียบกับ พวกที่กินในเอาใจออกนอก 
ทำตัวเป็นหนอนบ่อนไส้ ทำเรื่องยุแยงตะแคงรั่ว 
ทำให้แตกแยก  จะแตกระดับครอบครัว หมู่บ้าน 
หรือประเทศก็ได้ แต่คงเป็นหนอนคนละเกรด  

หนอนบางตัวก็ทำลายวัดวาอาราม ตามใบสั่ง 
อันนี้คงเป็นหนอนชนะการประกวดพันธุ์เลวได้ที่  
สรุปได้ตรงกันสมัยนั้นสมัยนี้คือ 
ทำตัวระรานผู้มีพระคุณ จนตัวเองเดือดร้อน



กิ้งก่า  ในนิทานอีสป เป็นเรื่องของกิ้งก่าที่เจอดาบตกอยู่ 
ก็นำไปโอ้อวดเพื่อนสัตว์ทั้งหลาย 
สัตว์ทั้งหลายเห็นดาบนั้น ก็ยกย่องให้
กิ่งก่าเป็นพระราชา 

วันหนึ่ง ช้างมาพบ ถามกิ้งก่าว่า
เจ้ารู้วิธีใช้ดาบไหม  กิ้งก่าถึงกับตอบไม่ถูก
เพราะตัวเองก็ไม่รู้ กิ่งก่านั้นจึงถูกช้างเหยียบตาย

นี่เค้าเปรียบเทียบว่า มีอำนาจแล้วไม่รู้จักการใช้อำนาจ  
เอาอำนาจไปใช้ทางที่ชั่ว 
อำนาจนั้นเองก็จะหันกลับมาทำลายตน

กิ้งก่าไทย ก็มีชื่อเสียง ที่ไม่ค่อยจะดีเหมือนกัน 
เพราะอาการที่ชอบผงกหัวของมัน 

ในนิทานชาดกเรื่องมโหสถ กิ้งก่าผงกรอบแรก 
ได้ยศ จากพระราชา ที่อารมณ์ดี  
ให้รางวัลมีเนื้อให้กินทุกวัน 

มีอยู่วันหนึ่งเนื้อไม่มีขาย 
คนดูแลเลยเอาเหรียญเจาะรู 
เท่าราคาเนื้อไปแขวนคอกิ้งก่า   
พอมีทรัพย์แค่นั้น ก็เย่อหยิ่งไม่ผงกหัวให้พระราชาอีก  
แล้วภายหลังก็เสื่อมจากลาภ
เพราะความหยิ่งที่เกิดจากการมีทรัพย์นั้นนั่นเอง 

แต่เรื่องนี้คิดๆ ดู จะเพราะเหรียญถ่วงคอเอาไว้
จนผงกไม่ไหวหรือไม่ก็ไม่ทราบ 

รวมความแล้ว กิ้งก่าก็มีชื่อเสียงของความเย่อหยิ่ง
 มีอำนาจไม่รู้จักใช้  หลงตนหลงตัวเอง 

ดังนั้น สัตว์สามชนิดนี้ คงพอให้แนวคิดอะไรได้บ้าง 


Donkey  Snail      Iguana   
ลา          หนอน       กิ้งก่า  

ถ้าทั้งสามสัตว์นี้ ถูกบรรจุลงในตัวหรือหน่วยงานไหน
ที่เดียวเลย ทั้งโง่เง่า ไม่เคยเชื่อฟังใครสอน 
ทำลายทำร้ายพวกเดียวกัน 
เหย่อหยิ่งจองหอง 
เห็นแก่ทรัพย์เพียงน้อยนิด 
ก็ลืมผู้มีพระคุณได้หมด 

เจออย่างนี้ เผ่นดีกว่า... 

วิ.28 สิงหา 59