เชื่อมศิลปอดีต กับ. ปัจจุบัน
เพื่อนๆ ส่งคลิปของการทำภาพวาดในอดีต ให้เป็นภาพ 3D Animation มีมิติ ก็สวยงามไปอีกแบบ
ศิลป.. คืออะไร. คือการที่ ใครคนใดคนหนึ่ง ถ่ายทอดเอาความคิดตนเอง ออกมา
ผ่านงาน วาด ปั้น ก่อสร้าง เพลง คำพูด บทกลอน ฯลฯ. ให้เป็นสิ่งที่คนอื่นจับต้องได้ เข้าใจตาม เอาเป็นตัวอย่างได้
ซึ่ง ทั้งหมดนี้ เกิดที่ในใจก่อน แล้วจึงถูกถ่ายทอด เรียบเรียง ออกมา
ใจ ก็มักคิดไปในทาง ดีบ้าง ชั่วบ้าง แล้วแต่การอบรมใจของแต่ละคน หรือ สภาพแวดล้อม ต่างๆ
แต่ศิลปินที่ดี ทั้งหลาย ต้องรู้ว่า เมื่อเราเอาสิ่งที่อยู่ในใจเราออกมาแสดงแล้ว สิ่งนั้นก็จะเป็นตัวอย่างให้กับคนอื่น
ก็ควรที่จะนำสิ่งที่เป็นฝ่ายดี เท่านั้นออกมา ไม่ควรนำด้านมืด ให้ออกมาภายนอก ทำให้โลกนี้หม่นหมอง
ใครประสบพบเจอก็หม่นหมองตามไป ความทุกข์ระทม จากสิ่งต่างๆ เหล่านั้น ก็ตามมา
ควรทำให้โลกนี้เป็นเหมือนสวรรค์บนดิน มีแต่ความสุขสดชื่น นี่น่าจะเป็นหน้าที่ของศิลปินทั้งหลาย
ถ้าทุกคนทุกสายอาชีพ มั่นคงในความคิดที่จะทำให้โลกนี้ดีขึ้น มีความสุขขึ้น นำแต่สิ่งดี ให้เกิดกับสังคม รอบข้าง
โลกนี้คงน่าอยู่กว่านี้เยอะ
วิ.18 ก.พ. 61
อ่าน ช้า ช้า.....
ไร้เรื่องราวผ่านแผ้วในห้วงคิด.
กำหนดจิตให้เป็นกรรมฐาน
ณ ที่ตั้งที่สถิตย์ของดวงมาลย์.
หยุดในฐานที่เจ็ดกึ่งกลางกาย
ค่อยค่อย...เบาเบา....แผ่วแผ่ว.
เกิดดวงแก้วใสสว่างมิคาดหมาย
กายบางเบาโปร่งโปร่งโล่งสบาย.
ประคองไว้ใจเย็น...เย็น.. นิ่ง....ดิ่ง.....กลาง
วิ. 25 03 56. UA 907Y
เพลงของ Namewee นักร้องชาวมาเลเซีย ช่างคิดช่างเขียน ไม่รู้ว่าได้ไอเดียจากอะไร แต่ก็ทำให้คนที่ไปเที่ยวญี่ปุ่นง่ายขึ้นเยอะ
คนทั่วโลกอยากไปเที่ยวญี่ปุ่น เพราะเค้ารักษาความสวยงาม ของวัฒนธรรม ความสะอาด สวยงาม ความเป็นญี่ปุ่น
แต่ก็จะไปไหนมาไหนไม่ค่อยถูก เพราะอ่านไม่ออก ภาษาก็ไม่เข้าใจ ยิ่งให้คนญี่ปุ่นพูดอังกฤษแล้ว ยิ่งฟังไม่เข้าใจ
จนมีคำว่า. Japanglish คือ อังกฤษแบบญี่ปุ่น
คำที่นักท่องเที่ยวถามคนญี่ปุ่นบ่อยๆ ก็ถามถนนหนทาง ร้านอาหาร ญี่ปุ่นตอบให้ก็ฟังไม่รู้เรื่องอีก
เค้าก็เลยเอาคำเหล่านั้นมา ทำเพลงให้ คุ้นๆ หูกันไป
นักท่องเที่ยวอย่างน้อยจะได้ไปหาอะไร ทานได้
ฉลาดไหม..
ลองฟังดู
ชื่อเพลง
Tokyo Bon
Japanglish sond from Namewee
youtu.be/zhGnuWwpNxI
ยมทูตให้กลับมาทำบุญ
นายประหยัด ล้นเหลือ อายุ 71 ปี ตาย 2 วันแล้วฟื้น พูดเป็นภาษาเขมรพื้นถิ่นสุรินทร์ว่า ช่วงที่ตายตนไปไปท่องแดนยมบาล พบมีแต่คนหมอบคลานเต็มไปหมด ตนนอนอยู่ในโลงศพ ยมทูตได้ปลุกให้ลุกขึ้น พร้อมกับบอกตนว่า ให้กลับขึ้นมาบอกลูกบอกหลาน ให้ช่วยกันหมั่นทำบุญทำกุศล สลึง ห้าสิบสตางค์ก็ทำบุญได้ เวลาเห็นพระเดินบิณฑบาตอย่าพากันเดินหนี ตนไม่เคยทอดกฐิน เพียงแต่เคยไปวัดทำบุญสม่ำเสมอ ตนตื่นมาก็เห็นสายสิญจน์ผูกมัดข้อมือเต็มไปหมด
จึงถามยายว่าตนเป็นอะไร ตนตายไปแล้วแต่ยมบาลให้กลับมาคืน
เพราะลูกหลานทำพิธีบายศรีสวดอิติปิโส ภาวนา 77 รอบ จนเกิดมีปาฏิหาริย์ กลับฟื้นคืนชีพอีกครั้ง
เพื่อมาบอกและเน้นย้ำ ให้ลูกหลานและชาวบ้านทุกคน หมั่นทำบุญ ทำกุศลและสร้างความดี.
มีเป็นภาพวีดีโอ ถ่ายที่บ้านกดไปชมได้ ตามลิงค์นี้
https://youtu.be/wUGUMHGwaYY
พระมหาเถร
พระภิกษุสงฆ์ เป็นแกนหลักในการรักษาพระศาสนาจากยุคที่ผ่านมา และก็คงต้องทำหน้าที่ในยุคปัจจุบัน และยุคหน้า โดยมีญาติโยมเป็นผู้สนับสนุน. ร่วมใจกันนำพาพระศาสนาข้ามยุคข้ามเวลาไป
ถ้าไม่ร่วมมือกัน ไม่ร่วมใจกัน มีแต่จะคอยจ้องจับผิดทำลายกันแล้ว ก็คงเหมือนกับ ต้นไม้ที่ราดด้วยน้ำกรดทุกวัน คงต้องเหี่ยวเฉาตายไปแน่นอน
ดังนั้น ชาวพุทธทุกคน อย่าทำตัวเป็นน้ำกรดเสียเอง ร่วมมือกัน ช่วยกัน สร้างศรัทธาต่อพระรัตนตรัยกันให้ยิ่งๆ ขึ้นไป
มาพิสูจน์สัจจธรรมที่นำไปสู่ความสุข ตามความเป็นจริง แล้วทิ้งสิ่งนี้ไว้เป็นมรดกให้กับอนุชนรุ่นต่อๆ ไป ด้วยกัน
วิ.13 กพ. 61
หมดแล้วชีวิต
ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง ยุโรป ประเทศน้อยใหญ่ หวาดผวากับความมืดทมึนของภัยสงคราม
ภาพของผู้นำสงคราม ที่ทำการคุกคามไปในประเทศต่างๆ ทำให้ทุกคนหวาดผวา
ในช่วงที่กำลังสิ้นหวัง กำลังหมดกำลังใจ มองไปทางไหน ก็ไม่รู้จะไปพึ่งใคร
เศรษฐกิจพังพินาศ ค้าขายไม่ได้ ปล้นชิงวิ่งราว ไม่รู้ว่าใครเป็นใคร
ข่าวความเดือดร้อนไปทุกหย่อมหญ้า ใครฉกชิงอะไรได้ก็เอา
(คนไทย น่าจะรับรู้อารมณ์นี้ได้.. เนอะ)
แทบจะไม่มีใครกล้าที่จะคิดไปทางอื่น นอกจากยอม ยอม อย่างเดียว
แต่กลับมี นักแสดงตลกท่านนึง ลุกขึ้นมาแต่งตัวเลียนแบบ ผู้นำที่ก่อสงครามอันน่าหวาดกลัวนั้น
ทำภาพยนต์ตลกออกมาหลายเรื่อง จนภาพที่น่ากลัวกลายเป็นภาพของตัวตลกแทน
กำลังใจของคนยุโรป ก็เริ่มดีขึ้น
ไม่ใช่ตลกอย่างเดียว แต่ยังให้เส้นทาง ที่แม้ว่าจะผ่านมาแล้ว เกือบแปดสิบปี ก็ยังเป็นคำพูดอมตะ
เป็นเส้นทาง ของผู้ที่จะเป็นผู้นำ ควรมีไว้ในใจ
ท่านผู้นั้น มีชื่อที่ชาวโลกรู้จักคือ. ชาลี แชปปลิน
วิ.15 กพ.61
https://youtu.be/B8DDvRbffeE
การรบยังไม่จบ อย่าเพิ่งนับศพทหาร ..
หมากกระดาน ที่เอามาให้ดู เหมือนข้างหนึ่งเพลี่ยงพล้ำ แต่การแข่งขันก็ต้องดูให้จบ เพราะการชนะหรือแพ้กันต้องดูตอนจบ
ชีวิตคนเราก็เช่นกัน ล้มๆ ลุกๆ มีแพ้บ้าง ชนะบ้าง สุขบ้าง ทุกข์บ้าง แต่ถ้ายังไม่ถึงจุดจบ ก็อย่าเพิ่งยอมแพ้
สู้กันต่อไป
ถ้ายังเดินอยู่ ก็ต้องไปถึงจุดหมายที่หวังไว้สักวันนึง ..
เป็นกำลังใจกับคนที่ไม่ยอมแพ้ทุกคน
ขนม....ความ.....รัก....
คนญี่ปุ่นช่างคิด ช่างทำ สร้างและรักษา วัฒนธรรม ของตัวเอง ลงรายละเอียด ทุกอย่างมี เรื่องราวเบื้องหลังหมด.
แยกเรื่องราวลงไปในระดับท้องถิ่น จังหวัด ภาค ต่างๆ.
แล้วก็พยายาม เก็บรักษา พัฒนาสิ่งที่ดี ๆ. แต่ก็ไม่ละทิ้งรากเหง้าของตัวเอง ความเชื่อต่างๆ
แม้แต่ขนม..
แต่ละอย่างก็สร้างเรื่องราวที่มา และ วิธีการนำไปใช้. จะทานกันในฤดูไหน วันไหน ถ้าเป็นคำพูดสมัยใหม่ก็คือ การส่งเสริมการขาย การตลาดแบบหนึ่ง
แล้วขนมไทยล่ะ
ขนมไทย เด็กรุ่นหลัง เรียกขนมไทย อยู่สองชื่อ มี ชื่อ ไอ้นี่ กับไอ้นั่น
เวลาแม่ค้าถาม ก็บอก เอาไอ้นี่ ถ้าไกลหน่อย ก็เอาไอ้นั่น. ..
ประวัติไม่ต้องพูดถึง ..ชื่อยังไม่รู้จัก
ส่วนการจะได้รับการสนับสนุนนั้น .... เฮ้ออ. ยุคนี้แค่ทำขนมให้ขายได้ไปวันๆ เอาให้รอด ก็ดีแล้ว
ก็คงจะคิดกันได้แค่นี้
ภาคบ้าน ภาควัด จะช่วยในการสร้างวัฒนธรรม ที่สวยหรูอะไรอย่างไงคงคิดกันไม่ออก
ก็น่าสงสารเหมือนกัน ที่สิ่งที่บรรพบุรุษ บรรพสตรี ไทยได้เพียรสร้างสมไว้ จะไม่เหลือไว้ในรุ่นต่อไป
เกริ่นมาซะยืดยาว
วันนี้ ไปเจอบทความที่พยายามสร้างเรื่องราว ของขนมครกมา อ่านแล้วก็ น่ารักดี
ก็ลองอ่านดู
วันหน้าใครทานขนมครก แล้วน้ำตาไหล จะได้ทราบว่า ไม่ใช่เพราะลืมเป่ามัน แต่ะเพราะมันมีที่มา
//////////////////////. เริ่ม /////////////////
ประวัติของขนมครก
ไอ้กะทิ หนุ่มน้อยแห่งดงมะพร้าวเตี้ย แอบมีความรักกับ หนูแป้ง สาวสวยประจำหมู่บ้านซึ่งเป็นลูกสาวคนเดียวของผู้ใหญ่บ้าน ทั้งคู่เจอกันวันลอยกระทง และสัญญากันต่อหน้าพระจันทร์ ไม่ว่าข้างหน้าแม้จะมีอุปสรรคขวางกั้นเพียงใด ทั้งคู่ก็จะขอยึดมั่นความรักแท้ที่มีต่อกันชั่วฟ้าดินสลาย
ไอ้กะทิ ก้มหน้าก้มตาเก็บหอมรอมริบหาเงินเพื่อมาสู่ขอลูกสาวจากผู้ใหญ่บ้าน แต่กลับถูกปฏิเสธแถมยังโดนผู้ใหญ่ส่งชายฉกรรจ์พร้อมอาวุธครบมือมาลอบทำร้าย แต่ไอ้กะทิก็ไม่ว่ากระไร มันพาร่างอันสะบักสะบอมกลับไปบ้าน นอนหยอดน้ำข้าวต้มซะหลายวัน แต่ใจยังตั้งมั่นว่า วันหน้าจะมาสู่ขอหนูแป้งใหม่จนกว่าผู้ใหญ่จะใจอ่อน
ไอ้กะทิ ก็พังพินาศเมื่อผู้ใหญ่ยก หนูแป้ง ลูกสาวคนสวยให้แต่งงานกับปลัดหนุ่มจากบางกอก ไอ้กะทิ รู้ข่าวจึงรีบกระเสือกกระสนหมายจะมายับยั้งการแต่งงานครั้งนี้ ซึ่งผู้ใหญ่บ้านก็วางแผนป้องกันไว้แล้ว โดยขุดหลุมพรางดักรอไว้ แต่แม่แป้งแอบได้ยินแผนร้ายเสียก่อน จึงลอบหนีออกมาหมายจะห้ามหนุ่มคนรักไม่ให้ตกหลุมพราง
คืนนั้นเป็นคืนเดือนแรม หนูแป้งวิ่งฝ่าความมืดออกมาเพื่อดักหน้าไอ้กะทิ ไอ้กะทิเห็นหนูแป้งวิ่งมาก็ดีใจทั้งคู่รีบวิ่งเข้าหากัน ฉับพลัน!!...ร่างของหนูแป้งก็ร่วงหล่นลงไปในหลุมพรางของผู้ใหญ่ฯผู้เป็นพ่อ ต่อหน้าต่อตาไอ้กะทิ อารามตกใจนายกะทิก็รีบกระโดดตามลงไปเพื่อช่วยเหลือหนูแป้ง อารามดีใจสมุนชายฉกรรจ์ของผู้ใหญ่บ้านซึ่งแอบซุ่มอยู่ ก็รีบเข้ามาโกยดินฝังกลบหลุมที่ทั้งคู่หล่นลงไป เพราะคิดว่าในหลุมมีเพียงไอ้กะทิผู้เดียว ...
รุ่งเช้าผู้ใหญ่บ้านสั่งให้ขุดหลุมเพื่อดูผลงาน แทบไม่เชื่อสายตาเบื้องล่างปรากฏร่างของ ไอ้กะทิตระกองกอดทับร่างหนูแป้งลูกสาวของตน ทั้งสองนอนตายคู่กันอย่างมีความสุข เมื่อรอยยิ้มถูกเปลี่ยนเป็นน้ำตา ผู้ใหญ่บ้านรำพึงต่อหน้าศพของลูกสาวว่า..
"พ่อไม่น่าคิดทำลายความรักของลูกเลย"
ตั้งแต่นั้นมาอนุสรณ์แห่งความรักที่กระทำสืบทอดกันมาจนเป็นประเพณี ทุกแรม ๖ ค่ำ เดือน ๖ ชาวบ้านที่ศรัทธาในความรักของไอ้กะทิ กับ แม่แป้ง ก็จะตื่นตั้งแต่เช้ามืด เข้าครัวเพื่อทำขนมที่หอมหวานปรุงจากแป้ง และกะทิ บรรจงหยอดลงหลุม พอสุกได้ที่ก็แคะจากหลุม แล้วนำมาวางคว่ำหน้าซ้อนกันเป็นสัญลักษณ์ว่า "จะได้อยู่ร่วมกันตลอดไป" ขนมนี้จึงถูกเรียกขานกันในนาม
"ขนมแห่งความรัก" หรือ ขนม คน-รัก-กัน ต่อมาถูกเรียกย่อ ๆ ว่า 'ขนม ค-ร-ก' นั่นเอง
๑๑๑๑๑๑๑๑๑ ๑๑๑๑๑๑๑๑๑ ๑๑๑๑๑๑๑๑๑ ๑๑๑๑๑๑๑๑๑ ๑๑๑๑๑๑๑๑๑
สรุปว่า ทำดีๆ อีกหน่อย 14 กพ. ชาวโลกแจกชอคโกแลต. ไทยเราก็ซื้อขนมครกมามอบให้กัน. ..
ทั้งหอม ทั้งหวาน ทั้งอบอุ่น
ชื่นมื่น
วิ. 23 กพ.61
จีน ยึดจักรวาล
เดี๋ยวนี้สินค้า เกือบทุกชนิด ที่ส่งมาจาก ต่างประเทศ มักจะมีส่วนของจีนเสมอ บางชนิดก็ของจีนเพียวๆ กันเลย
จีนเข้ามายึด ตลาดเซียร์รังสิต ขายคอมพิวเตอร์. ยึดห้วยขวาง ขายสารพัด กลายเป็นเมืองจีน
ใช่แต่ที่เราเท่านั้น
แม้ประเทศต่างๆ ก็เช่นกัน
ในอเมริกา ถ้าเราเข้าห้าง สารพัดห้างของเมกา แล้วจะพบว่าไม่ว่าเราจะหยิบอะไรขึ้นมา ถ้าดูตรงป้าย ก็จะเจอคำว่า Made in China มีแต่ของที่ส่งมาจากประเทศจีนทั้งนั้น
บางอย่างก็เป็นแบรนด์ของเมกา แต่ไปผลิตที่จีน ก็เขียน ว่า Made in China. อยู่ดี
อย่าว่าแต่ ของกินของใช้ที่เราหลีกเลี่ยงไม่พ้นของจีนเลย
|
ดีทรอย |
แม้แต่ โรโบคอป Robocop. ก็เช่นเดียวกัน.
ภาคแรก ในภาพยนต์ หุ่นยนต์ตำรวจที่ออกมาปราบเหล่ามิจฉาชีพ อย่างเก่ง ผลิตที่ ดีทรอย อเมริกา
|
เมดอินไชน่า |
พอภาคหลังสุด หุ่นยนต์ตำรวจพระเอก กลับไปผลิตที่ เมืองจีน เมืองอะไร ก็ไม่ทราบ จะเป็นเซิ่นเจิ้นหรือไม่ ก็ไม่รู้
อย่าว่าแต่สินค้าไฮเทคแบบหุ่นยนต์เลย
ล่าสุด Star trek ที่เป็นหนังอวกาศ ซีรีย์ สี่ห้าสิบปี ที่มีนักสำรวจอวกาศ ทะยานสู่ห้วงลึกของจักรวาล ที่มีสัญชาติเมกา มีคนเอเซียร่วมแสดงอยู่สักคนเห็นจะได้
มาปีที่แล้ว Star trek ออกตอนใหม่ เป็นซีรีย์ในเมกา มี มิสเชล โหย่ว นักแสดงหญิงเอเซีย เล่นบทเป็นกัปตัน
ถ้าแค่นี้ ก็ยังฟังแล้วธรรมดาเกินไป
เป็นกัปตัน ของยานที่ชื่อ ว่า. USS Shenzhou. ยูเอสเอส. เสินโจว. .... เรื่องราวย้อนไปก่อนที่จะเริ่มต้น Star trek ฉบับแรกสิบปี.
อยากจะหัวเราะ ..... จีนมาก่อนสิบปี นะจะบอกให้
วิ. 23 กพ.61
วิ. 23 กพ.61